วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หลักการเลือกอุปกรณ์ตกปลา


หลักการเลือกอุปกรณ์ตกปลา

ปัญหาการเลือกอุปกรณ์ตกปลาซักชุดเพื่อมาเป็นอาวุธคู่กายของเรา เป็นเรื่องยากเย็นจริงหรือ
คงจะเป็นเรื่องจริงครับ รูปแบบการตกปลามีมากมายหลายหลากมากในปัจจุบัน ประเภทชุดเดียวเที่ยวทั่วไทยคงไม่อาจสนองความต้องการของเราได้ทั้งหมด
บทความนี้เราจะไม่เอาราคาของอุปกรณ์มาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของเราเพราะงบประมาณในกระเป๋าจะช่วยเลือกระดับราคาของอุปกรณ์ได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว
สำหรับผู้มีงบประมาณจำกัด แนะนำให้เลือกซื้อคันเบ็ดราคาไม่เกิน1,500 บาท แล้วหาซื้อรอกที่มีราคาสูงที่สุดเท่าที่งบคุณสามารถซื้อได้ครับ
แล้วที่นี้เราจะเลือกอุปกรณ์ซักชุดมาตกปลาเราจะต้องเริ่มจากอะไร?
แรกสุดเลยเรามาเริ่มกันที่คำถาม 3 ข้อนี้กันก่อน
  • เราจะตกปลาอะไร ?
  • เราจะตกปลาที่ไหน ?
  • วิธีตกของเราเป็นอย่างไร ?
ทำไม 3 ข้อนี้จะช่วยให้เราเลือกอุปกรณ์ได้จริงหรือ
เรามาดูแต่ละข้อกันดีกว่าครับ
1.เราจะตกปลาอะไร ปลามีหลากหลายชนิดในบ้านเรา  เราจึงต้องรู้ก่อนว่าเราจะหาคันหารอกที่จะมาตกปลาชนิดนั้นให้เหมาะสมได้ อย่างไร เช่นตกปลาเกล็ดปากบางคันต้องอ่อนรอกต้องจุสายขนาดเล็กได้เพียงพอ จะตีเหยื่อปลอมคันรอกต้องเบาเป็นต้น  จะตกบึกรอกคันต้องแข็งแรงพอรับกับสายขนาดแรงดึงสูงๆได้ดี
2.เราจะตกปลาที่ไหน แหล่งที่อยู่อาศัยของปลาก็เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจว่าเราจะใช้คันแบบไหน รอกอะไรด้วย เช่นอ่างเก็บน้ำต้องตีเหยื่อไกลต้องใช้คันยาว หมายรกอุปสักเยอะคันรอกสายต้องแข็งแรงกว่าปรกติ ตกปลาบนเรือคันต้องสั้นคล่องตัวไม่เกะกะ
3.วิธีตกของเราเป็นอย่างไร บางคนตกปลาด้วยตะกร้อ,เหยื่อเป็น หรือ เหยื่อปลอม วิธีตกจึงเป็นหัวใจในการเลือกครั้งนี้ในการเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับวิธีตก ของเรา การตกปลาจึงจะให้ความสนุกสนานเร้าใจกับเราได้
จากทั้ง 3 ข้อเราลองมาดูตัวอย่างกันครับ
1. เราจะตกปลาบึก
2. จะไปตกที่บึงสำราญ
3. เราจะใช้รำหุ้มตะกร้อ

เมื่อได้คำตอบทั้งสามข้อแล้วเราจะเริ่มจากอะไรกันดีครับ
บ้างท่านคงเลือกคันเบ็ดก่อน  อีกหลายท่านมุ่งไปที่รอก ส่วนผมจะเลือกสายที่ใช้ก่อนครับ ขนาดน้ำหนักปลาที่เราคิดไว้ว่าจะไปตกมันเอาซะ 30 กิโลกรัม+
เราคงต้องเลือกสายเอ็นขนาด20lb-50lb จะเป็นสายโหลดหรือสายเต็มlbก็ดี
บางคนก็เลือกสายPE-5ถึงPE-8 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าไรเราต้องทราบด้วยนะครับ
เพื่อเราจะได้ใช้เส้นผ่าศูยน์กลางนำไปเลือกขนาดของรอกต่อไป
เมื่อได้ขนาดของสายเอ็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราต้องการความยาวของสายเท่าไหร่ละ?
ปลาบ่อไม่มีที่ให้หนีมากมายนักรอกที่จุสายเอ็นขนาดที่เราเลือกไว้ได้ซัก150-250 หลา-เมตรก็คงเหลือเฟือสำหรับงานนี้
เราก็ต้องมองหารอกไม่ว่าจะเป็นรอกเบทรอกสปินนิ่ง  ที่สามารถจุสายเอ็นในความยาวสายที่เราต้องการได้เป็นอย่างดี
รอกมีหลายระดับราคาในขนาดเดียวกัน
ถ้าเรางบน้อยเราก็ต้องทำใจกับรอกราคาต่ำที่อาจจะไม่ทนทานมากนัก
หรืออาจจะเป็นรอกที่ทนทานแต่ต้องแลกมากับการที่รอกจะมีน้ำหนักมาก
ความสวยงามของรอก ไม่ได้ช่วยให้เราตกปลาดีขึ้นอันนี้ต้องเข้าใจ
ส่วนรอกราคาสูงก็คงไม่ต้องอธิบายกันมาก เพราะส่วนใหญ่คุณภาพจะมีตามราคาครับ
ราคาที่เหมาะสมกับเราจึงเป็นรอกที่ดีที่สุดสำหรับเราแน่นอนครับ

ส่วนชิ้นสุดท้ายที่เราจะเลือกมาเป็นอาวุธคู่มือคือคันเบ็ดครับ
ทำไมเราจึงเลือกคันเบ็ดเป็นชิ้นสุดท้าย
คันเบ็ดมักจะสร้างปัญหาในการใช้งานมากที่สุดนั่นเองครับ
หลายครั้งที่พบว่าคันที่ซื้อมาใส่กับขารอกที่เรามีอยู่ไม่ได้
หรือ คันเบ็ดที่มียาวเกินไปหรือสั้นเกินไป  ด้ามยาวไปอีกสั้นไปหรือเปล่า อ่อนไปไหมแข็งไปหรือเปล่า
แต่ถ้าเราเลือกสายที่จะใช้ได้แล้ว  นำสายมาใส่ในรอกที่เราเลือกมาเป็นอย่างดีแล้วเราก็ค่อยไปเลือกคันเบ็ดที่เราต้องการโดยเอาสายในรอกของเราเป็นตัวเลือกคันที่มีระดับของสายเอ็น  ให้ใช้ได้กับสายของเรายกตัวอย่างสายของเรา 30lb เราก็ต้องดูคันที่มีเวทสาย 25-40 lb หรือคัน PE2-4
ถ้าสังเกตุจะเห็นว่าขนาดสายของเราจะอยู่ตรงกลางระหว่างขนาดสายต่ำสุด,และสูงสุดที่แนะนำมาบนคันเบ็ด หาคันให้ได้ความยาวที่ต้องการ จะตีไกลก็คันยาวหน่อย ตีใกล้ก็สั้นหน่อย
มันจะดีอย่างไรละ?
ข้อแรก เราจะสามารถหาคันที่เหมาะสมกับสายเอ็นที่เราใช้ได้  ทำให้คันไม่ต้องรับภาระจากขนาดสายที่ใหญ่เกินไป  สายเอ็นที่ใช้จะไม่ช้ำจากการที่คันเบ็ดแข็งเกินความต้องการของสายเอง
ข้อสอง เราจะได้คันที่มีรีลซีทที่พอดีกับรอกของเรา ไม่หลวมคลอน  หรือ  บ้างครั้งมีรีลซีทที่เล็กเกินไปจนใส่รอกที่มีอยู่ไม่ได้เลย
ข้อสาม เราสามารถเลือกความยาวของคันได้ตามสถานที่ ที่เราจะนำไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม  ต่างสถานที่ก็ต้องใช้งานคันเบ็ดที่มีความยาวต่างกันไป
จะตกปลาชายฝั่งทะเลจะถือคัน5ฟุตไปตกก็ลำบาก  อยากตีเหยื่อปลอมหรือตกปลาบนเรือ พกคัน9ฟุตไปก็คงทุลักทุเลน่าดู

เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่เราใช้ตัดสินใจในการเลือกอุปกรณ์ มีอยู่2-3หัวข้อเท่านั้น
มาลองดูตัวอย่างของการเลือกชุดตีเหยื่อปลอมกันบ้าง
เราจะว่ากันเฉพาะน้ำจืดและปลาทะเลขนาดเล็กเท่านั้นนะครับ
ปลาล่าเหยื่อเราแบ่งออกเป็น2พวกก่อนคือ
1.ปลาชะโด,ปลากระสูบ,ปลากะพงใหญ่
2.ปลาช่อน,ปลากุเลา,ปลาเก๋า,ปลากราย
กลุ่มที่1.เป็นปลาขนาดใหญ่ กลุ่มที่2.เป็นปลาขนาดเล็ก อุปกรณ์ย่อมมีความแตกต่างกัน
กลุ่มปลาใหญ่ย่อมต้องใช้อุปกรณ์ที่แข็งแรงกว่ากลุ่มปลาเล็ก โดยขนาดและน้ำหนัก
หมายที่เราจะตกปลาก็มีส่วนในการตัดสินใจ ในการเลือกซื้อเช่นกัน
คนที่ตกปลาตามบ่อขุด,คลองระบายน้ำข้างทาง,ร่องสวน หมายแบบนี้ชุดอุปกรณ์ขนาดเบาจะใช้ตกปลาได้สนุกสนานมาก
แต่ถ้าเป็นหมายรกมีบัว,มีผักบุ้งมาก ตอไม้หรือสาหร่ายเยอะคันชุดเล็กย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะนำตัวปลาขึ้นจากน้ำอย่างง่ายดาย
ข้อที่นำมาพิจารณาอีกข้อคือเหยื่อที่เราชอบใช้หรือเหมาะกับปลาที่เราจะตก สำหรับผมเหยื่อจะแบ่งออกเป็นสองพวกตามน้ำหนักของตัวเหยื่อ
เหยื่อเบากับเหยื่อหนักอันนี้คงไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว จากข้อแรกปลาขนาดใหญ่จะสู้เบ็ดรุนแรงมากเมื่อติดเบ็ด แรงกระชากที่สูงจะเป็นภาระกับคันเบ็ด,รอกและสายเป็นอย่างมาก เราจึงควรเลือกคันที่มีระดับการใช้สายเอ็นสูงสุด 20 lb ขึ้นไป เพื่อจะได้มีกำลังที่จะบังคับปลาได้ดีมากยิ่งขึ้น สามารถหลบเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้เป็นอย่างดี ส่วนรอกก็ต้องแข็งแรง มีเบรคที่ดี รอกทรงกลมกับรอกหยดน้ำราคา5000+-จะเหมาะกับปลาใหญ่ๆแบบนี้มากเลยที่เดียว เพราะรอกระดับนี้จะใช้วัสดุที่แข็งแรงในทุกส่วนของรอก ไม่มีวัสดุราคาแพงที่มีน้ำหนักเบามากนักซึ่งในบางจุดจะเกิดความเสียหายได้ อย่างง่ายดาย เมื่อต้องต่อสู้กับปลาขนาดใหญ่เป็นเวลายาวนานและบ่อยครั้ง
รอกที่มีน้ำหนักเบาๆ,ราคาสูง จะเหมาะกับการตกปลาเล็กขนาดไม่เกิน1-2กิโลกรัมมากกว่า โดยที่ส่วนประกอบทั้งหมดจะถูกสร้างมาให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ เพราะต่างประเทศจะปล่อยปลาขนาดเล็กลงไปในบ่อตกปลาและในแหล่งน้ำธรรมชาติจะมี ปลาขนาดเล็กนี้อาศัยอยู่โดยทั่วไป เรามาดูเรื่องเหยื่อกันเลย

เหยื่อปลอม ที่มีน้ำหนักเบาเช่นเหยื่อยาง,ปลั๊ค,สปินเนอร์ขนาดเล็กเหยื่อ จำพวกนี้  ต้องการปลายคันเบ็ดที่อ่อนพริ้วการสร้างแอคชั่นของเหยื่อก็เช่นเดียวกัน ถ้าเรานำคันแข็งมาใช้กับเหยื่อเบาเราจะพบกับเรื่องการตีเหยื่อไม่ออก-ไม่ ไกล,ตีเหยื่อไม่แม่นเป้าหมาย,สร้างแอคชั่นได้ไม่พริ้วไหวนุ่มนวล ถ้าเป็นกลุ่มเหยื่อหนักละครับ  แน่นอนเหยื่อหนักย่อมเกิดมาคู่กับคันแข็งแน่นอนอยู่แล้วครับ คันที่ปลายคันแข็งจะตีเหยื่อขนาดใหญ่และหนักได้ระยะทางที่ดี
การที่เราเอาคันเบ็ดที่อ่อนมาใช้กับเหยื่อหนักหรือใหญ่ๆบ่อยๆ ที่พบมากคือคันจะหักปลายทิปท๊อปประมาณ 4-10นิ้ว พบบ่อยมากเกิดมาจากความเครียดที่สะสมตัวในจุดที่หักเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าคันเบ็ดถูกสร้างจากเส้นใยกราไฟท์ จุดที่โค้งงอมากๆและบ่อยๆย่อมเกิดการแตกหัก,ฉีกขาดจากกันของเส้นใยการไฟท์ และน้ำยายึดแผ่นกราไฟท์ การสะบัดตัวไปมาของปลายคันเบ็ดจากน้ำหนักของเหยื่อขณะที่เราตีเหยื่อ  นับเป็นร้อยๆครั้งในแต่ละทริปที่เราออกตกปลาจนที่เกินกำลังที่คันจะรับได้ อาการช้ำของจุดที่หักของคันเบ็ดจะสะสมจนถึงจุดที่คันหักขณะตีเหยื่อ,หรือกำลังสู้ปลา
เรื่องที่กล่าวมาจึงตอบคำถามที่ว่า บนคันเบ็ดจะบอกน้ำหนักเหยื่อมาเพื่ออะไรก็คงจะได้รับคำตอบกันแล้วนะครับ นอกจากนั้นคันอ่อนที่เอามาตีเหยื่อหนัก  ก็จะทำระยะไม่ได้ควบคุมเป้าหมายได้ไม่ดี คงจะพอมองเห็นความสำคัญ  ของการเข้ากันได้ในการเลือกอุปกรณ์ที่จะนำมารวมกันเป็นชุดตกปลาซักชุดของเรา ราคาไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรในการเลือกการเลือกอุปกรณ์  สิ่งที่เหมาะสมทั้งคัน,รอก,สายและเหยื่อกับงานที่เราจะนำมาใช้ต่างหากที่ เป็นหัวใจสำคัญ

บทความ  Fishing4you
เรียบเรียงโดย ไทยฟิชชิ่ง


ว่าด้วยเรื่อง ลูกปืนรอกตกปลา

วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกปืน ที่พอจะหามาได้ เพื่อมาให้หลายๆท่านได้รับความรู้เกี่ยวกับ ลูกปืนรอก กันคับ
ประเภทแรกลูกปืนธรรมดา
ลูกปืนพวกนี้จะพบมากที่สุด จะเห็นได้ตั่งแต่รอกราคาหลักร้อย ไปจนรอกราคาแพงๆที่เห็นตามท้องตลาดบ้านเรา  หน้าตาไม่แตกต่างเท่าใดนัก แต่ในความไม่แต่กต่าง มันมีความแต่ต่าง  นั่นคือความลื่นความนุ่มนวล  ลูกปืนพวกนี้หาได้ง่ายใน บ้านเรานี่ละ ตามคลองถม ราคาไม่แพงนำเข้าจากจีน เนื่องจากราคาที่ถูกจึงนิยมนำมาใช้กัน แต่คุณภาพนี่ไม่แนะนำครับ คุณภาพต่ำ ตามราคา  ของจีนขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องคุณภาพ(ต่ำ)  เหมาะสำหรับ จุดที่ไม่สำคัญมากนักไม่ต้องการความลื่นมาก  ความคงทนก็ไม่ทนเท่าใดนัก แต่ด้วยราคาที่ถูกแสนถูก หลายๆคนจริงเลือกที่จะใช้ลูกปืนชนิดนี้
แต่หากเป็นลูกปืนที่ผลิตจากญี่ปุ่น พวกนี้คุณภาพถือว่าดีเลยทีเดียวในความคิดผม ผมว่าของ MADE IN JAPAN นี่คงเป็นผู้นำทางด้านนี้แล้วจริงๆ  ลื่นและนุ่มนวลจนอยากจะปาของจีนทิ้งเลย ทีเดียว แต่ราคานี่สิไม่ถูกเลยครับ ดังนั้นการเลือกนำมาใช้ควรคำนึงถึงจุดประสงค์การใช้งาน คุณภาพ ราคา ว่าตรงไหนเหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด  ก็อยู่ที่ว่าจะเลือกคุณภาพหรือจะ เลือกราคา! 
ลูกปืน CRBB          CRBB= CORROSION   RESISTANCE   BALL   BEARING  (Daiwa)     เครดิตน้า  granite ขยายความ
ลูกปืน CRBB ตัวนี้จะอยู่ในรอก DAIWA สังเกตได้ง่าย ขอบนอกและขอบในจะเป็นสีดำๆ คุณภาพ และความลื่นอยู่ในระดับดี ทนเค็มได้ดี แต่ก็ต้องล้างอยู่ดีหากไปเล่นเค็มจริงๆ  ลูกค้าหลายๆท่านเข้าใจผิด เห็นบอกทนเค็มได้ เลยไม่สนใจซะเลย สรุปพังครับ  มันทนได้ระดับนึง ไม่ได้หมายความว่าทนได้ 100%  ยืนยันครับไม่มีลูกปืนชนิดไหนทนได้ 100%  มันทนได้ระดับนึงเท่านั้นเอง ยังคงต้องได้รับการดูแลอยู่ดี
การสั่งซื้อลูกปืนพวกนี้ในบ้านเราก็พอมีแหล่งขายอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะDAIWA เองมีบริษัทโรงงานที่ผลิตอยู่ที่ประเทศไทยเองด้วย ส่วนราคาไม่แพงเท่าใดนักอยู่ที่ 200-300 บาท แต่อยากนะนำว่าตรวจสอบให้ดี  หลายๆครั้งผมซื้อมาซ่อมรอกให้ลูกค้า ของใหม่แท้ๆ หอนบ้าง ฝืดบ้าง คุณภาพไม่แน่นอน
ส่วนอีกแหล่งคือสั่งตรงจาก บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเลย พวกนี้หลับตาเลือกมาได้เลย สุดยอดทุกตัว อาจเป็นเพราะคุณภาพด้าน QC ของทางญี่ปุ่นด้วย เพราะนิสัยผู้บริโภคที่ญี่ปุ่นนี่อารมณ์ประมาณว่าราคาไม่เกี่ยวแต่คุณภาพ ต้องมาก่อน  แต่ราคาแพงกว่าแหล่งจากบ้านเราหลายเท่าตัว เพราะต้องนำเข้า และราคาขายที่ญี่ปุ่นเองก็แพงกว่าแหล่งที่ขายในบ้านเรา
ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมา  ทำให้เจ้า CRBB นี้มีหลายมาตรฐาน จึงแนะนำให้ตรวจสอบให้ดี การซื้อมีความเสี่ยงพอสมควร แนะนำให้ตรวจสอบให้มากๆ เน้นเลยนะครับ มากๆ โดยเฉพาะพวกไม่รู้แหล่งที่มา อันนี้น่ากลัว ตรวจสอบให้ดี ไม่งั้นได้เสียเงินหลายรอบ.
ลูกปืน ARB   ARB=  ANTI   RUST    BALL BEARING  (Shimano)  เครดิตน้า  granite ขยายความ
ลูกปืน ARB ตัวนี้จะอยู่ในรอก SHIMANO สังเกตได้ง่าย ดำทะมึนทั้งตัว ARB นี่จะไม่มีฝาครอบลูกปืน เป็นลูกปืนแบบเปิดหรือเปลือย  ลูกปืนแบบเปิด จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี คือมีทั้งข้อดีและเสียในตัวมันเอง คือทำความสะอาดง่าย แต่สิ่งสกปรกก็เข้าง่ายเช่นกัน ทำให้หลังๆ SHIMANO ได้ออกลูกปืนแบบใหม่ออกตามมา ซึ่งเดียวจะมาว่ากันในลำดับถัดไป
คุณภาพและความคงทน ต้องบอกว่าสุดยอดจริงๆ  ลื่นทนถึกได้ใจจริงๆ ผมว่าลื่นจนจะเทียบชั้น พวกลูกปืน SIC ได้เลย ส่วนลูกปืน SIC คืออะไรเดียวจะมาว่ากันในลำดับต่อไป
การสั่งซื้อลูกปืนพวกนี้ต้องสั่งจาก บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ราคามาตรฐานห่างกันไม่มากตามแหล่งต่างๆ เพราะต้องสั่งซื้อจากบริษัทแม่ทั้งหมด จะแตกต่างกันตรงราคาขายที่แต่ละคนตั้งราคาขายไม่เท่ากันเท่านั้นเอง หากมาจากที่อื่น ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลย ไม่แอบอ้างก็ปลอม แต่หากเคยใช้หรือเคยสัมผัสของแท้มาแล้ว ก็จะสามารถแยกแยะได้เองด้วยสายตา และการใช้งานจริง เพราะของแท้ๆ คุณภาพมันจะบอกได้ด้วยตัวของมัน
ลูกปืน S-ARB    SHIELD  ANTI   RUST    BALL BEARING
ลูกปืน S-ARB จะคล้ายๆกับ ARB จะต่างกันตรงที่มีฝาครอบเพิ่มขึ้นมา (SHIELD) ในรายละเอียดจะคล้ายๆกับ ARB   รอกชิมาโน่รุ่นใหม่ๆหลังจากปี  04 -05 จะเปลื่ยนมาใช้  S-ARB เกือบหมดแล้ว
ลูกปืน RS-ARB
ลูกปืน RS-ARB  ก็จะคล้ายกับ  ลูกปืน S-ARB แต่ ฝาครอบ (SHIELD) ที่เพิ่มขึ้นมาจะเป็นยาง พบได้ในรอกรุ่นใหม่ๆ ในปี 07 ขึ้นไป และจะมีบางจุดเท่านั้น แต่ด้วยสาเหตุอันใด จุดใหนต้องใช้แบบนี้ อันนี้ยังเกินความเข้าใจของผม ใน ตอนนี้อยู่หากได้ข้อมูลมาเพิ่ม จะมาแจ้งให้ทราบในลำ
ลูกปืน SIC (silicon carbide)
ลูกปืนSIC (silicon carbide) สังเกตได้ง่าย ตัวบอลแบลิ่งข้างในจะทำด้วย silicon carbide คล้ายๆไกด์  คันเบ็ดที่เราๆใช้กันนี่ละ ความลื่นคงจะลื่นสุดเท่าที่มีในวงการตกปลาแล้ว ตอนนี้ยังคงมีอยู่แบรนเดียวที่ทำออกมา ก็คือ ZPI  ซึ่งลูกปืน SIC ที่ผลิตก่อน ปี 08 จะยังคงไม่ชุบน้ำยาที่ทำให้ทนความเค็ม  เวลาซื้อสังเกตที่ซองครับ หัวซองจะสีดำนั่นละคือรุ่นที่ยังไม่ชุบน้ำยา  ส่วนรุ่นหลังๆ ชุบน้ำยามาหมดแล้ว จะแยกด้วยสายตาว่าตัวไหน รุ่นเก่า รุ่นใหม่ แยกด้วยสายตาไม่ได้ครับ เพราะเหมือนกันทุกประการ คงต้องพึ่ง ซองที่ใส่มา ซึ่งจะบ่งบอกได้ว่าเป็นรุ่นใด
ลูกปืนชนิดนี้แนะนำให้หาน้ำมันใส่ลูกปืนดีๆมาใช้ควบคู่กันด้วย  ลูกปืนSIC ไม่ค่อยถูกกับน้ำมันเกรดต่ำเพราะจะทำให้มีเสียงดัง หรือภาษานักตกปลาเราก็คือหอนนั่นเอง
บทความ deepfishingshop
เรียบเรียง ไทยฟิชชิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น